วันนี้เราจะมาดูพื้นฐานที่สุดกันก่อน
คือ “วงกลมหนึ่งหน่วย”
วงกลมหนึ่งหน่วย
หมายถึงวงกลมที่มีรัศมี 1 หน่วย
เมื่อกำหนดให้มุม ทีต้า =
A องศา
ค่าของแกน x เป็น cos A และ ค่าของแกน y เป็น sin A
1. ค่าที่เป็นส่วนกลับซึ่งกันและกัน
sin A และ cosec A
cos A และ sec A
tan A และ cot A
2. ค่าที่เป็น co-function กัน
sin A และ cos A
tan A และ cot A
sec A และ cosec A
3. สูตรมุมติดลบ
พิสูจน์จากวงกลมหนึ่งหน่วย สังเกตว่าเราลองค่าของ
sin cos tan ระหว่างมุม
A กับ -A จะได้ผลดังนี้
sin (-A) = -sin A
cos (-A) = cos A
tan (-A) = -tan A
13 บท 13 จุดผิด เคมี ม.ปลาย
15 จุดผิด ชีววิทยา part 1/3
หลังจากปล่อย Review หนังสือชีววิทยาแล้ว ได้รับความสนใจกับน้องๆ เป็นอย่างมาก วันนี้เลยขอปล่อย 15 จุดผิดชีววิทยาที่ควรระวัง ซึ่งแต่ละข้อที่พี่ๆ ได้คัดมา สามารถประยุกต์ใช้ได้กับหลายข้อ ยิ่งตอนนี้ชีววิทยาวิชาสามัญ ลดจำนวนข้อจาก 100 เหลือ 80 ข้อ ทำให้การผิดแต่ละข้อ ยื่งส่งผลมากขึ้น บางข้อที่เรารู้คำตอบอยู่แล้ว แต่ดันมาตกม้าตายเพราะความไม่รอบคอบ ดังนั้นหากน้องไม่ผิดจุดผิดพวกนี้เลย น้องจะได้คะแนนเพิ่มขึ้นอีกเยอะแน่นอน
1. เซลล์ของสิ่งมีชีวิต ถือว่าเป็นบทพื้นฐานที่ควรเข้าใจและจำได้ เพราะบทนี้ออกทุกปีและมีผสมอยู่กับบทอื่นๆ อีกเช่นกัน ดังนั้นหากเข้าใจหน้าที่ของส่วนประกอบแต่ละส่วน จะทำโจทย์ได้แน่นอน
2. Mitosis VS Meiosis บทนี้ก็ออกทุกปี! ดังนั้นให้จำว่าระยะใดเกิดอะไรขึ้นบ้าง จำนวนโครโมโซม และความแตกต่างของการแบ่งเซลล์ 2 แบบ นอกจากนี้บทนี้ยังออกผสมกับอีกหลายบท ถ้าแม่นบทนี้จะประยุกต์ใช้ได้กับอีกหลายบทเลย
3. ส่วนต่างๆ ของหัวใจและลำดับการไหลเวียน ขอให้แม่นว่าเลือดอะไรเข้า-ออก ชื่ออะไร เพราะเรื่องนี้ก็ออกบ่อยไม่แพ้กัน สิ่งที่ต้องระวังคือ ลิ้นหัวใจ อย่าสับสนระหว่าง TRIcuspid และ BIcuspid
4. ระบบเลือด ABO พูดเหมือนจะง่ายแต่โจทย์จะทำให้งงมาก จำให้ดีเรื่อง antigen antibody การให้และการรับของแต่ละหมู่เลือด อะไรให้อะไรแล้วตกตะกอน
5. ระบบสืบพันธุ์ จำการสร้างไข่และอสุจิ การแบ่งตัวและจำนวนโครโมโซม อันนี้เชื่อว่าหลายคนจะโดนหลอกแน่ๆ
6. การเจริญเติบโตของเนื้อเยื่อ Ectoderm Mesoderm และ Endoderm เจริญไปเป็นอวัยวะหรือระบบอะไร จำให้ดีๆ เพราะหากจำได้ก็รับคะแนนไปเลย เนื่องจากเรื่องนี้มักไม่ออกซับซ้อน จะถามตรงๆ
7. อนุกรมวิธาน จำเยอะ! แต่หากจำระบบต่างๆ ได้อยู่แล้ว บทนี้จะง่ายมาก เพราะเหมือนเป็นการเอาจิ๊กซอว์แต่ละบทมาต่อรวมเป็นรูป ถือว่ายิงปืนนัดเดียวได้นกหลายตัว ดังนั้นพอจำคร่าวๆ เกี่ยวกับระบบต่างๆก็พอ เช่น ระบบย่อยอาหาร ระบบสืบพันธุ์ ระบบประสาท และจำชื่อสัตว์ที่ออกบ่อยๆ
8. เบสใน DNA = T A G C ส่วนใน RNA = U A G C เป็นเรื่องที่จำง่ายๆ ต่างกันแค่ 1 ตัว แต่ก็มักจะลืมในห้องสอบ ดังนั้นตั้งสติให้ดี เพราะโจทย์อาจจะดูน่ากลัวและน่าปวดหัว จากนั้นแปลงให้ถูก และอย่าลืมว่า อ่านจาก 5′ ไป 3′ นะ
9. AUG คือ Start UAA / UAG / UGA คือ Stop เป็นเรื่องที่ดูง่ายอีกเช่นกัน แต่หลายคนเวลาทำโจทย์มักลืมและตอบผิดข้อเสมอ เหมือนคนออกข้อสอบจะรู้เรื่องนี้ดีเลยมักแต่ง choice หลอกให้เจ็บใจเล่นๆ
ฟังเพลงตอนอ่านหนังสือ ดีไหม?
? ยอมรับมาเถอะว่า หลาย ๆ คนชอบฟังเพลงเป็นชีวิตจิตใจ บางคนถึงขั้นติดเพลง ต้องฟังเพลงตลอดเวลา แม้กระทั่งตอนอ่านหนังสือ ทำงาน หรือตอนที่ตั้งใจทำอะไรสักอย่าง…?
การฟังเพลงระหว่างอ่านหนังสือ ให้ผลแตกต่างกันออกไป และปัจจัยที่ทำให้ผลลัพธ์ออกมาแตกต่างกัน ก็ได้แก่
1. ขึ้นอยู่กับตัวบุคคลแต่ละคน
อย่างบางคนชอบอ่านเงียบ ๆ ไม่อยากได้ยินหรือฟังเสียงรบกวนอะไรทั้งนั้น ถึงจะมีสมาธิจดจ่อได้ดีที่สุด หรือบางคนอาจจะชอบแบบให้มีเสียง ของสภาพแวดล้อมนิดหน่อยพอกรุบ กริบ เช่น เสียงคนคุยกันเบา ๆ เสียงทีวี วิทยุ เพราะฉะนั้น การฟังเพลงเป็นเรื่องเป็นราว จึงส่งผลด้านลบต่อคนกลุ่มนี้
2. ขึ้นกับกิจกรรมที่ทำหรือวิชาที่อ่าน (หรือเรียน)
ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่า ทางที่ดี พยายามอย่าฟังเพลงในขณะที่อ่านหนังสือจะดีกว่า
โดยเฉพาะวิชาที่เกี่ยวข้องกับความจำ มีการเรียงลำดับเหตุการณ์ หรือต้องวิเคราะห์และทำความเข้าใจ วิชาพวกนี้ ไม่ควรเปิดเพลงฟังในขณะที่อ่าน และสำหรับใครที่ต้องการฟังเพลง เพื่อให้ได้ผลทางบวก ควรฟังช่วงก่อนที่จะลงมืออ่านหรือเรียน เพราะการฟังเพลงช่วยปรับอารมณ์ ทำให้อารมณ์ดีขึ้น จิตใจผ่อนคลาย และพร้อมเปิดรับการเรียนรู้ได้มากขึ้นนั่นเอง
16 บท 16 จุดผิด คณิตศาสตร์ ม.ปลาย
จิตวิทยา จุฬาฯ เรียนอะไร
1. จิตวิทยา จุฬาฯ เป็นคณะไม่ใช่สาขาหรือภาควิชาเหมือนมหาวิทยาลัยอื่นๆ
2. การสอบเข้าจิตวิทยาสามารถยื่นคะแนนเข้าได้หลากหลายรูปแบบดังนั้นน้องๆ สายศิลป์ก็สามารถเข้ามาเรียนคณะนี้ได้แต่ตอนเรียนจะมีวิชาบังคับอย่างชีววิทยา สแตทด้วย แต่อย่ากังวลไปนะคะไม่ยากเกินความสามารถของน้องๆ แน่นอนสาเหตุที่มีวิชาเหล่านี้เนื่องจากคณะจิตวิทยาเป็นวิทยาศาสตรบัณฑิตและการทำงานวิจัยต่างๆ จำเป็นต้องใช้สแตทในการคำนวณด้วย(มีโปรแกรมสอนให้ใช้นะคะ ไม่ต้องคำนวณในกระดาษเอง)
3. ในระดับปริญญาตรีมีเปิดสอน 4 สาขาคือ ปรึกษา สังคม อุตสาหกรรมและองค์กรและพัฒนาการค่ะสามารถเลือกลงวิชาเรียนได้นะคะ ไม่ใช่เลือกสาขาแล้ว ต้องเรียนแค่วิชาของสาขาเท่านั้น
4. เรียนคณะจิตวิทยาแต่สามารถเรียนโทคณะอื่นๆ ได้ เช่น นิเทศศาสตร์ เศรษฐศาสตร์โดยสามารถเลือกเรียนโทได้ตอนเรียนชั้นปีที่ 2 โดยวิชาที่เราเลือกเรียนโท จะลดหน่วยกิตวิชาเลือกในคณะค่ะเป็นตัวเลือกที่ดีมากเลยนะคะสำหรับน้องๆ ที่อยากเรียนหลายคณะแต่ตัดสินใจไม่ได้ส่วนคณะที่เปิดให้เลือกโท มีจำกัดนะคะ ไม่ใช่ทุกคณะในมหาวิทยาลัย
5. คณะจิตวิทยามีภาคอินเตอร์Joint International Psychology Program (JIPP) 2 ปีแรกที่จะเรียนที่ไทยพอปี 3 จะไปเรียนที่ออสเตรเลีย 1 ปีที่ The University of Queensland เรียนจบได้ปริญญา 2 ใบด้วยนะคะ เป็นโอกาสที่ดีมากๆ สำหรับๆน้องที่อยากลองไปเรียนต่างประเทศและมีเพื่อนไปเรียนด้วยกันไม่เหงาแน่นอนค่ะ
6. นักจิตวิทยารักษาคนด้วยการพูดคุยบำบัด ปรับพฤติกรรมและทัศนคติ แต่จิตแพทย์ใช้ยาค่ะ
7. มีโอกาสได้อ่านjournal หรืองานวิจัยภาษาอังกฤษบ่อยมากๆ ส่วนมากชีทเรียนจะเป็นภาษาอังกฤษด้วยแต่ถ้าภาคไทย อาจารย์ก็ยังสอนเป็นภาษาไทยนะคะ
8. วิชาฮอตฮิตของคณะจิตวิทยาที่เลื่องลือคือ Human relations เป็นวิชาที่สอนพื้นฐานทางจิตวิทยาความสัมพันธ์และว่ากันว่าคนที่มาเรียนมักจะได้คู่กลับไป
9. เรียนจิตวิทยาอ่านใจคนไม่ได้เราแค่ศึกษาสาเหตุหรือปัจจัยต่างๆ ที่ส่งผลต่อความคิด ความรู้สึกและพฤติกรรมมนุษย์ทำให้เราสามารถเข้าใจมนุษย์ได้ดีมากขึ้น
10. เรียนจบมาแล้วมีงานทำแน่นอนค่ะถึงแม้ว่าจะไม่มีสายงานรองรับแน่นอน (ยกเว้นจิตวิทยาการปรึกษาและจิตวิทยาพัฒนาการ)แต่เรียนจบคณะนี้สามารถไปทำงานได้หลากหลายมากค่ะ เพราะทุกงานมันก็ต้องมีความเกี่ยวข้องกับคน
22 บท 22 จุดผิด ฟิสกส์ ม.ปลาย

1. หน่วยฐานของฟิสิกส์
ที่ใช้บ่อยๆก็จะมี 7 ตัวหลัก คือ มวล(kg) เวลา(s) ความยาว(m) อุณหภูมิ(K) กระแสไฟฟ้า(A) ปริมาณสาร(mol) และความเข้มส่องสว่าง(cd)

2. บทกฎนิวตัน
ไม่มีอะไรเลย นอกจากเขียนแรงให้ครบ F, T, N, W, f เช็คให้ครบทุกกรณีว่าโจทย์มีแรงอะไร

3. สมดุลกล
สมดุลมี 2 แบบ สมดุลต่อการเลื่อนตำแหน่ง และ สมดุลต่อการหมุนถ้าระบบอยู่ในสมดุลทั้ง 2แบบเรียกว่าสมดุลสัมบูรณ์

4. งานและพลังงาน เขียนพลังงานให้ครบ พลังงานศักย์ พลังงานจลน์ พลังงานศักย์ยิดหยุ่น และที่สำคัญอย่าลืมงานจากแรงภายนอก (ปล.ในรูปพิมพ์ผิดนิดหน่อยนะครับ)

5. โมเมนตัม การชนมี 2 แบบยืดหยุ่นคือไม่เสียพลังงาน แบบไม่ยิดหยุ่นคือเสียพลังงาน แต่ทั้ง 2 แบบ “กฎอนุรักษ์โมเมนตัมยังคงใช้ได้อยู่”

6. การเคลื่อนที่แบบโพรเจกไทล์
ทั้งแกน x และแกน y ตัวที่เท่ากัน คือเวลา (t)

7. การเคลื่อนที่แบบวงกลม
สำหรับวงกลมในแนวดิ่ง
อย่าลืมคิดผลที่เกิดขึ้นจากน้ำหนักของวัตถุ(mg)

8. การเคลื่อนที่แบบซิมเปิ้ลฮาร์มอนิก
การกระจัด ดิฟ ได้ความเร็ว ความเร็ว ดิฟ ได้ความเร่ง ดูกราฟการเคลื่อนที่ดีๆว่าเฟสต่างกันเท่าใดเช่น ถ้ากราฟการกระจัดเป็น sin ดิฟ sin จะได้ cos แสดงว่ากราฟความเร็วจะมีเฟสต่างจากการกระจัด90 องศา

9. การเคลื่อนที่แบบหมุน
ถ้าโจทย์บอกว่ากลิ้ง แสดงว่าจะมีทั้ง พลังงานจลน์จากการเลื่อนตำแหน่ง 1/2mv2 และ จากการหมุน 1/2Iw2

10. แก๊สและทฤษฎีจลน์
หน่วยฟิสิกส์และเคมีต่างกันนะ
แต่ตัวที่เหมือนกันคือ n = mol และ T
= K

11. ของแข็ง
สูตรสัมประสิทธิ์การขยายตัว วิชาสามัญรอบหลังๆออกมาครั้งหนึ่ง
เรียกได้ว่าแค่จำสูตรก็ตอบได้แล้วจ้า

12. ของเหลว
แรงที่เกิดจากความสูงของน้ำจะกระทำที่จุด
h/3 วัดจาก “ฐาน”

13. ของไหล
ท่อเดียวกัน ตัวที่เท่ากัน คือ
อัตราการไหล (Q = AV) นะ อย่าสับสนกับตัวแปรอื่น

14. ไฟฟ้าสถิต
ประจุ q
เคลื่อนที่จากศักย์สูงไปต่ำนะ
ดังนั้นงานในการเคลื่อนประจุจากศักย์สูงไปต่่ำจะเป็นลบ เนื่องจากมันไม่ใช่การฝืนธรรมชาติการเคลื่อนย้ายประจุ

15. ไฟฟ้ากระแสตรง
การวนลูปอาจเป็นเรื่องที่คนบอกว่าถึกสุดเรื่องหนี่งใน ม.ปลาย แต่ถ้าหากเราเลือกที่จะวนจากจุด (Kirchoff Current Law) ในบางข้อจะเร็วกว่าการวนลูป Kirchoff Voltage Law มากๆ เอาเป็นว่าถ้าข้อไหนทำลูปแล้วเห็นว่ายากเกิน ค่อยวิเคราะห์จากจุดแล้วดู I ไหลเข้า = I ไหลออก นะครับ

16. แม่เหล็กไฟฟ้า
บทนี้คงไม่มีอะไรนอกจากจำสูตรดีๆ กับมือขวาให้ถูกนะครับ

17. ไฟฟ้ากระแสสลับ
วงจรที่มีแต่ C
I นำ V
…..ส่วนวงจรที่มีแต่ L
V จะนำ I
นะ

18. คลื่น
การหักเห หลังๆมาออกบ่อยมาก จำสมการให้ได้ทุกตัวก็พอแล้วนะ (ดูตามรูปได้เลย)

19. เสียง
คนฟังเสียงได้ 20-20,000 Hz ถ้าโจทย์ถามสูงสุดที่คนฟังได้ก็อย่าลืมตัวเลขนี้นะ

20. แสง
เกรตติง คำนวณโดยใช้สูตรเหมือน “สลิตคู่” อย่าจำสลับนะ

21. ฟิสิกส์อะตอม
eV เป็นหน่วยของพลังงานด้วยการเอา joule
มาคูณด้วย 1.6×10^(-19)

22. ฟิสิกส์นิวเคลียร์
ออกทุกปี Alpha
คือ 4He2
, Beta คือ 0e-1
, Gamma ไม่มีทั้งประจุและมวลแต่คือพลังงาน
15 จุดผิด ชีววิทยา part 2/3
10. ตำแหน่งและหน้าที่ของสมองแต่ละส่วน อย่าสับสนระหว่าง Cerebrum และ Cerebellum ชื่อคล้ายแต่หน้าที่ไม่คล้ายนะ!
11. Sympathetic VS Parasympathetic เลือกจำแค่อย่างเดียว เพราะก็ทราบกันอยู่แล้วว่าระบบสองอันนี้ทำงานตรงข้ามกัน แนะนำให้จำเป็นสตอรี่แล้วจะเข้าใจมากขึ้น เช่น หากเราตื่นเต้น ร่างกายเรามักจะเป็นอย่างไร
12. Hormone หรือต่อมไร้ท่อ แค่เห็นชื่อบทก็กลัวแล้ว เพราะมันเยอะจริงๆ แต่มันไม่ได้ยากแบบที่คิด เปลี่ยนจากการจำเป็นทำความเข้าใจแทน สิ่งที่มักถาม คือ insulin และ glucagon การทำงานที่มีหน้าที่ตรงข้ามกัน Adrenal cortex และ Adrenal medulla เป็นต่อมหมวกไตเหมือนกัน แต่ว่าผลิตฮอร์โมนคนละอย่างกัน อย่าสับสนนะ
เรียนออนไลน์ vs เรียนที่สถาบัน
เดี๋ยวนี้เราคงเห็นคอร์สเรียนออนไลน์ผุดออกมาเยอะแยะเต็มไปหมด เนื่องจากสะดวก ประหยัดเวลาเรียนได้ทุกที่ และมีข้อดีต่างๆมากมาย
แต่!!! เราก็คงปฏิเสธไม่ได้ว่า การเรียนพิเศษที่สถาบันกวดวิชายังคงมีข้อดีเหมือนกันถึงแม้จะเป็นเรียนกับคอมหรือเรียนห้องสดวันนี้เราจะมาดูกันว่าการเรียนแบบนี้ มีข้อแตกต่างกันยังไง และอันไหนเหมาะกับเรากันแน่?
เดี๋ยวนี้เราคงเห็นคอร์สเรียนออนไลน์ผุดออกมาเยอะแยะเต็มไปหมด เนื่องจากสะดวก ประหยัดเวลาเรียนได้ทุกที่ และมีข้อดีต่างๆมากมาย
แต่!!! เราก็คงปฏิเสธไม่ได้ว่า การเรียนพิเศษที่สถาบันกวดวิชายังคงมีข้อดีเหมือนกันถึงแม้จะเป็นเรียนกับคอมหรือเรียนห้องสดวันนี้เราจะมาดูกันว่าการเรียนแบบนี้ มีข้อแตกต่างกันยังไง และอันไหนเหมาะกับเรากันแน่?

หลักสูตรการเรียนออนไลน์ ใหม่กว่าจริงๆ ติวเตอร์ท่านใหม่ๆ พยายามหาเทคนิคต่างๆมาอย่างอัดแน่น ข้อดีคือมีความใหม่ น่าลองกระชับ สั้น เหมาะสำหรับการเรียน concept เทียบกับหลักสูตรของสถาบันกวดวิชาที่เปิดมานานแล้วอาจมีความแน่นมากกว่า เนื่องจากหลักสูตรสถาบันดังๆ ก็มีการปรับปรุงทุกปีให้ดีขึ้นเรื่อยๆ โดยส่วนตัวพี่ยังเชื่อการเรียนพิเศษที่สถาบันมากกว่าในประเด็นนี้

เรื่องการถาม การเรียนออนไลน์เดี๋ยวนี้ สามารถถามได้ง่ายขึ้นแต่ก็ยังไม่สะดวกเท่าการไปเรียนที่สถาบันแบบ face-to-face และถามตอนนั้นเลย

เรียนคนเดียวแบบออนไลน์ หรือ เรียนกับเพื่อนที่สถาบัน พี่เห็นว่าแล้วแต่ชอบจริงๆ บางคนบอกว่าตัวเองเรียนคนเดียวมีสมาธิมากกว่า เพราะเรียนกับเพื่อนแล้วก็เอาแต่คุยกัน ชวนกันไปเดินเล่น ซื้อขนม กลับมาอีกทีก็จบคาบแล้ว บางคนก็ชอบเรียนกับเพื่อนเพราะไม่เหงา เรียนหลายๆคนถ้าทุกคนตั้งใจ จะมีแรงให้ตัวเองรู้สึกว่าเราต้องตั้งใจเหมือนกัน

ประเด็นนี้สำคัญที่สุด คือ ถ้าเราเรียนที่บ้าน หรือที่ไหนก็ตามด้วยการเรียนออนไลน์ เราต้องควบคุมตัวเองให้เรียนตามเป้าหมายที่ควรเป็น ถ้าไม่มีวินัยจริงก็ไม่work พี่เห็นน้องหลายคนมากๆที่ซื้อคอร์สเรียนออนไลน์มา แต่ไม่เรียน!!! การเรียนที่สถาบัน เราจะรู้สึกว่าควบคุมได้มากกว่าให้ตัวเองไปเรียน เช่น เราเดินทางไปถึงสยามเพื่อรอเรียนพิเศษ เราก็มีแนวโน้มที่จะไม่โดด เพราะเราอุตส่าห์ไปรอเรียนถึงสยามแล้ว อันนี้ขึ้นอยู่กับวินัยของตัวน้องแล้วล่ะ
เรียนเก่งขึ้นด้วย Active Learning
by P’Win พนมวัฒน์ วรัทเศรษฐ์
Rank 10 วิศวะฯ จุฬาฯ คะแนน PAT3 272
? เริ่มด้วยความคิด เราจะคิดตลอดว่าเราเป็นผู้แสวงหาและเราเลือกเรียนสิ่งนี้เพราะเราอยากจะรู้
? ทุกวิชาทุกคาบที่เราเข้าไปเราจะเข้าไปพร้อมกับคิดมาก่อนแล้วว่า วิชานี้แก่นหลักของมันคืออะไร เราเรียนวิชานี้จบแล้วเราจะรู้อะไรบ้าง แล้วคาบนี้อาจารย์จะสอนเนื้อหาเราตรงไหน
? มีภาพรวมในหัวตลอด แต่ละคาบคือเหมือนต่อจิ๊กซอว์เข้าไปให้ภาพมันเต็มยิ่งขึ้น การมีภาพรวมก็เหมือนดูหน้ากล่องจิ๊กซอว์ก่อนต่ออะว่ากำลังต่อรูปอะไรอยู่

?? ไม่จดเลคเชอร์นะ (จดแบบลอกกระดานลงมาในสมุดอะ) จะฟังมากกว่ามานั่งจด ก็เลยอาศัยทำความเข้าใจมันเลยซะตั้งแต่ตอนนั้นอะดีสุดแล้ว
?️ การสอนเพื่อนคือวิธีการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพสูงสุด หลังจากที่เราเข้าใจแล้วให้สอนเพื่อนโดยเริ่มจากการเอาเนื้อหานั้นมาถ่ายทอดด้วยคำพูดที่มันง่ายขึ้น ประโยชน์ที่ได้ นอกจากเพื่อนจะรู้เรื่องมากขึ้น ก็เป็นเรานี่แหละที่เอาเนื้อหามาจัดเรียงในสมองได้ดีขึ้นจากการสอนเพื่อน
? ผลจากการใช้วิธีนี้กับตัวเองพบว่าเสียเวลากับการอ่านหนังสือก่อนสอบน้อยลงมากๆ เหมือนเปิดทวนๆก็พอแล้วแล้วก็ไปฝึกทำข้อสอบ (สำหรับวิชาสายคำนวณทั้งหลาย)
พรสวรรค์ vs พรแสวง
ตัวอย่างของ พรสวรรค์ vs พรแสวง
⚽ น้องๆที่ดูบอลคงเข้าใจ หลายคนชอบบอกว่า Messi คือนักเตะที่มีพรสวรรค์ ส่วน Ronaldo คือนักเตะที่มีพรแสวง อยากให้ลองมองว่าจริงๆแล้ว Ronaldo ก็มีพรสวรรค์เช่นกัน บางทีการที่บอกว่า Ronaldo มีพรแสวง ก็คือ “พรแสวงสัมพัทธ์” เมื่อเทียบกับ Messi
⚽ “พรแสวงสัมพัทธ์” ในที่นี้หมายถึง Ronaldo อาจจะใช้ความพยายามมากกว่า Messi แต่เมื่อเทียบกับคนอื่น การที่ Ronaldo มาได้ไกลขนาดนี้ เป็นเพราะพรสวรรค์ในตัวเค้าที่มีมากกว่านักเตะคนอื่นๆ

⚽ เช่นเดียวกันกับการสอบ Entrance ของเรา ชอบมีคนถามว่าคนที่หัวดี กับคนขยัน สุดท้ายแล้วใครจะเก่งกว่ากัน คนชอบบอกกันว่า คนที่ใช้พรแสวงแล้วเก่งขึ้นมา ก็เพราะว่าฟิต ก็ขยันกว่าหนิ ได้คะแนนเท่านี้ก็ไม่แปลกหรอก ลองมองในอีกแง่ รู้ได้ยังไงว่าคนนี้ เค้าไม่มีพรสวรรค์ เค้าอาจจะเป็นคนที่มีอยู่ตั้งแต่แรก แต่ไม่เคยแสดงออกมาก็ได้ สุดท้ายการสอบมันไม่ได้วัดกันที่ คะแนนรวม = พรสวรรค์ X% + พรแสวง Y% ถ้ารู้ว่าพรสวรรค์เรามีไม่เยอะ ก็มุ่งให้พรแสวงซะ ถ้ารู้ว่าพรสวรรค์เราเยอะอยู่แล้ว ลองคิดดูว่าถ้ามุ่งให้พรแสวงด้วย จะมีใครสู้เราได้
⚽ เหมือนที่เราเห็นกันว่าในทุกปี จะต้องมีคนออกมาเถียงกันว่า Messi หรือ Ronaldo เก่งกว่ากันแต่ตัวพวกเค้าไม่ได้ทำอะไรอย่างอื่นนอกจากเถียงกับคนอื่น คนที่เอาแต่ว่าคนอื่นจะมีเวลาไปพัฒนาตนเองน้อยลง ถ้าน้องเจอคนแบบนั้น เราก็อย่าได้สนใจอะไรมากแค่พยายามทำในส่วนของเราให้ดีที่สุดก็พอแล้ว สุดท้ายคนที่ได้รางวัลก็คือตัวน้องเองไม่ใช่คนที่มาวิจารณ์น้องแน่ๆ
ทำไมซิ่วถึงยากกว่าสอบครั้งแรก?
หลายๆคนคงคิดว่าถ้าปีนี้สอบไม่ติด ปีหน้าเราก็แค่ซิ่ว เพราะว่าเราตั้งใจอยากเข้าคณะนั้นจริงๆ วันนี้แอดมินอยากมาแชร์มุมมองหนึ่งว่าการซิ่วไม่ได้ง่ายแบบนั้น
การที่เราไม่ฟิตวันนี้ ถ้าคะแนนออกมาแล้วเราขาดไป 0.1 คะแนนจะติดมันไม่ใช่ว่าปีหน้าเราทำเพิ่มอีกแค่ 0.1 นะมันคือเราต้องเริ่มต้นทั้งหมดใหม่จาก 0 คะแนน ความฟิต สังคม และ ปัจจัยภายนอกอื่นๆมันอาจนำพาให้เราไม่ได้ตั้งใจเท่าปีนี้ก็ได้ อย่างน้อยก็มีความรู้สึกที่ว่าปีที่ซิ่วตัวเองจะพลาดไม่ได้แล้ว ความคาดหวังเพิ่มขึ้นวินัยก็ต้องเพิ่มขึ้นเพราะเรามีเวลามากกว่าคนอื่นแล้ว ความกดดันก็เลยเพิ่มขึ้นด้วยพี่อยากฝากไว้สำหรับน้องๆ ที่จะสอบในปีนี้ ซิ่วไม่ใช่เรื่องง่ายการที่น้องฟิตเพิ่มขึ้นแม้วันละเล็กน้อยตั้งแต่ตอนนี้มันคุ้มค่ากว่าการที่น้องจะต้องรอเริ่มต้นใหม่อย่างแน่นอน สำหรับน้องๆ ที่ซิ่วอยู่พี่เชื่อว่าคนที่คิดจะซิ่วมาจนถึงเตอนนี้แล้วไม่ล้มเลิกไปก่อน แสดงว่าน้องจะเอาจริงแล้ว
ถ้าเราคิดว่าปีนี้จะเอาจริงแล้ว ก็เอาให้มันสุดๆ ไปเลย!